Article
3 มือถือกล้องเทพ ที่ราคาต่ำกว่าหมื่นบาทท!!
วันนี้เราจะมาพูดกันถึงกล้องมือถือ โดยเฉพาะมือถือที่ราคาต่ำกว่าหมื่นบาท ผู้เขียนจึงขอหยิบยก "3 มือถือกล้องเทพ" อยากรู้ว่ามีตัวไหนน่าสนใจ มันจะถ่ายรูปสวย ถ่ายรูปออกมาปังขนาดไหน อย่ารอช้าไปดูกันเลย
Realme 3 Pro
เริ่มจากมือถือน้องใหม่ที่จัดว่ามาแรงมากๆ โดยเฉพาะตอนเปิดตัว เพราะด้วยราคาค่าตัวที่เรียกว่าถูกมากๆ เมื่อเทียบกับ Spec ของตัวมันเองและคู่แข่ง ในตลาดหลายๆ แบรนด์ แต่จะมีความสามารถที่จัดเต็มขนาดไหนไปดูกัน
กล้องหน้า
Realme 3 Pro ให้กล้องหน้าความละเอียด 25 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง f/2.0 และโหมด AI Beautification ที่สามารถปรับแต่งหน้าตา จะคางแหลม หน้าใสเนียนแค่ไหนสามารถปรับแต่งได้หมด เรียกว่าโหมดนี้จะเป็นที่ชื่นชอบสำหรับคุณสาวๆ เป็นแน่
กล้องหลัง
Realme 3 Pro ให้กล้องหลังคู่ ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล f/1.7 เซนเซอร์ของ Sony IMX519 5 ล้านพิกเซล (f/2.4) เซนเซอร์ Spectra 250 บวก AI Dual Camera มี AI Scene recognition ที่ช่วยปรับแต่งภาพแบบเรียลไทม์ ที่มาพร้อมกับ 3 ความสามารถโดดเด่นดังนี้
Chroma Boost ซึ่งจะช่วยได้การเพิ่มสีสัน Dynamic Range หรือทำให้ภาพถ่ายที่ดูจืดๆ ดูสดใสมีชีวิตชีวาขึ้น สีอิ่มขึ้น
Super Nightscape หรือโหมดถ่ายกลางคืน โดยเทคโนโลยีนี้จะนำไฟล์ RAW หลายๆ ภาพมาซ้อนกันเพื่อให้ภาพที่มืดหรือแสงน้อยสว่างขึ้น และช่วยเกลี่ยนอยส์ (noise) ให้ดีขึ้นทำให้ได้ภาพถ่ายกลางคืนยังคงมีรายละเอียดสวยงามอย่างที่ควรเป็น
Ultra HD ชัดตาแตก เป็นเทคโนโลยีที่นำเอาภาพถ่าย 8 ช็อตมารวมเป็น 1 ภาพที่มีความละเอียดสูงถึง 64 ล้านพิกเซล เหมาะสำหรับคนที่ต้องใช้ภาพความละเอียดสูงในการนำไปทำงานอื่นๆต่อ
Spec การถ่ายวีดีโอนั้นก็ตามนี้เลยครับ
4K : 30fps
1080P : 30fps
720P : 30fps
Super slow motion : 720p 960fps
Slow motion : 1080p 120fps
สรุป
สำหรับ Realme 3 Pro นับว่าเป็นมือถือที่น่าจับตามองรุ่นหนึ่งด้วยราคาต่อความสามารถที่เกินตัวมากๆ ไม่ว่าจะถ่ายภาพความละเอียดสูง ถ่ายโหมดกลางคืน ถ่ายเร่งสี ตัวนี้ได้หมด สำหรับใครที่ชอบลูกเล่นชอบปรับแต่งและความคุ้มค่าตัวนี้ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
OPPO F11
ตัวนี้ไม่ใช่รุ่น Pro แต่จะบอกว่ามันมีความสามารถในด้านการถ่ายภาพเหมือนกันเปี๊ยบกับตัว Pro ที่ราคาแพงกว่า เพื่อไม่เป็นการเสียเวลามาดูความสามารถของ เจ้า F11 กันเลยดีกว่าเริ่มจาก
กล้องหน้า
มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f/2.0 ซึ่ง OPPO เก่งเรื่องกล้องหน้าอยู่แล้ว โดยเฉพาะตัวนี้ก็ยิ่งดีเข้าไปอีก ตรงที่ภาพให้ความละเอียดที่ดีและมีการเกลี่ยสีสกินโทนที่สวยงามไม่ดูหลอกจนเกินไป เรียกว่าเหมาะกับท่านชายท่านหญิงตอบโจทย์
กล้องหลัง
OPPO F11 มากับฮาร์ดแวร์กล้องคู่ 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/1.8 และกล้องตัวที่สองทำหน้าที่ชัดลึกความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช และโหมดต่างๆ อาทิ Night, Pano, Expert และ Google Lens (สำหรับถ่ายภาพค้นหาข้อมูล)
สำหรับ F11 ตัวนี้ผู้เขียนขอชูจุดแข็งหลักๆ เลยคือโหมดกลางคืน หรือ Ultra Night Mode สำหรับรุ่นนี้ถือว่าทำการบ้านมาอย่างดีเพราะแม้แต่สภาพแสงน้อยก็ยังเก็บรายละเอียดของแสงสีได้อย่างชัดเจน โดยเทคนิคการซ้อนภาพ 7 ภาพและนำมาประมวลผลให้ได้ภาพที่แสงสีที่ลงตัวที่สุด รวมถึงความสามารถในการถ่าย Portrait ที่จัดการพื้นหลังละลาย สามารถเบลอได้อย่างสวยงามเป็นธรรมชาติ ร่วมกับโหมดถ่ายกลางคืนไม่ว่าสถานการณ์ไหนตัวนี้ก็เอาอยู่
หรือถ้าต้องการสีอิ่มสด มีการไล่เฉดอย่างสวยงาม ก็ยังมีโหมด HDR ให้เล่นกันอีกด้วย
สรุป
OPPO F11 ถือว่าเป็นหนึ่งในมือถือที่ถ่ายภาพได้ดี มีสกินโทนที่สวยเหมาะกับสายบิวตี้ไม่ว่าจะชายหญิงก็ใช้ได้ จะมีจุดอ่อนหน่อยก็คงเป็นพวก การถ่ายวีดีโอที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษแค่พอใช้ แต่ด้านการถ่ายภาพนิ่งบอกเลยหายห่วง เอาเป็นว่าจะไปท่องเที่ยว ถ่ายรูป กินข้าว ถ่ายคน OPPO F11 ตัวเดียวเอาอยู่คอนเฟิร์ม
SAMSUNG A30s
การต่อยอดความสำเร็จจาก A30 รุ่นพี่มาถึงรุ่นน้องล่าสุด A30s โดยการอัพเกรดครั้งนี้ก็มีหลายส่วนที่เปลี่ยนไปตั้งแต่การเพิ่มกล้องหลังเข้ามาอีกหนึ่งตัวที่ทำหน้าที่ชัดลึก และอัพเกรดความคมชัดของกล้องหลักเข้าไปอีก แถมแสกนลายนิ้วมือบนหน้าจอได้แล้วด้วย
กล้องหน้า
A30s มาพร้อมกับกล้องหน้า ความละเอียด 16 ล้านพิเซล F2.0 ที่ถูกออกแบบมาให้ไม่หวั่นแม้แต่สภาพแสงน้อย พร้อม Selfie focus หรือการถ่ายหน้าตัวเองที่สามารถให้เราปรับแต่งหน้าชัดหลังเบลอ หรือจะโหมด Smart Beauty ที่ช่วยให้หน้าใสไร้สิวเพียงปลายนิ้วสัมผัส
กล้องหลัง
เจ้า A30s มาพร้อมกับกล้องหลังสามเลนส์ ที่มีกล้องหลักความละเอียด 25 ล้านพิเซล F1.7 และเลนส์กว้าง Ultra Wide 123 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
และที่เพิ่มเข้ามาใหม่จากตัวเก่า เลนส์ Depth ความละเอียด 5 ล้านพิเซล +Flash LED
ด้วยความที่กล้องหลังมีค่า F 1.7 ทำให้เจ้า A30s ตัวนี้มีจุดแข็งในการถ่ายภาพแบบแสงน้อยได้ดี (จริงๆมันดีกว่า A50s ที่เป็นรุ่นที่แพงกว่าด้วย ถ้าไม่นับเรื่องความละเอียด)
การบันทึกวีดีโอ
A30s ทั้งกล้องหน้าหลังก็ทำได้ ที่ 1080p ที่ 30fps ทั้งคู่ แต่จุดเด่นคือโหมด Ultra Wide ที่ใช้ถ่ายภาพนิ่งสามารถนำมาเปิดร่วมกับการถ่ายวีดีโอไปพร้อมกันได้ ทำให้เราสามารถ บันทึกวีดีโอในมุมมองที่กว้างขึ้นได้
สรุป
สำหรับ SAMSUNG A30s เป็นมือถือที่อาจจะไม่ได้ใส่ฟังก์ชั่นเยอะแยะเหมือนเจ้าอื่นๆ ในราคาใกล้กัน แต่จุดแข็งของมันคือคุณภาพข้องกล้องที่ดูมีภาษีดีกว่ายี่ห้ออื่นๆ ไม่ว่าจะความคมชัด มิติภาพสกินโทน แสงเงาต่างๆ ตัวนี้ถือว่าน่าสนใจมากๆ ตั้งแต่หน้าตาลูกเล่นที่ครบเครื่องดูพรีเมี่ยม บวกชื่อชั้นของแบรนด์ก็ไม่แปลกในมือถือราคาไม่เกินหมื่นจะมี A30s เป็นผู้ท้าชิงที่ไม่อาจมองข้ามได้เลย
สรุปสุดท้าย
มือถือทั้ง 3 รุ่นที่หยิบยกมานั้นมีจุดอ่อนจุดแข็งแตกต่างกันไปทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้จะเลือกแบบไหน บางรุ่นถ่ายคนสวย บางรุ่นมีมุมมองกว้างชัดลึกที่ดี บางรุ่นมีฟังก์ชั่นลูกเล่น AI หลากหลาย ที่เหลือก็ตัวท่านเองแล้วล่ะว่าชอบแบรนด์ไหนรุ่นอะไร สำหรับบทความนี้ก็ขอจบลงไปก่อน ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ต่อท่านไม่มากก็น้อย สำหรับวันนี้สวัสดีครับ
Cr.
